พ่อแม่ทุกคนมีความรักลูก และอยากให้ลูกมีความสุขกันทั้งนั้น อย่างไรก็ตามเราต้องตระหนักว่า สิ่งที่ทำให้เด็กมีความสุขในวันนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความทุกข์ ในอีก สิบ หรือยี่สิบปีต่อมาก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่อย่างเราควรจะต้องทำก็คือ การเตรียมความพร้อมของเด็กให้พร้อมที่จะรับมือกับโลก(แห่งความเป็นจริง) ในอนาคตได้ ไม่ใช่การสร้างโลก (หลอกๆ) เพื่อให้เด็กอาศัยอยู่)
ความผิดพลาด 5 ประการที่เรา (พ่อแม่) ทำกันโดยไม่รู้ตัว
อันดับ ๑ การบูชาเด็ก (ไม่ใช่การบูชายันต์นะครับ) ทุกวันนี้เราให้ความสำคัญกับเด็กมาก โดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางของทุกเรื่อง (Child-Centered) โดยไม่ต้องใจเราทำให้เด็กกลายเป็น "ลูกเทวดา" เวลาเด็กต้องการอะไร เราซื้อให้ เราทำให้ทั้งหมด เรากำลังสอนให้เด็กกลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว คนที่ผิดหวังไม่ได้ รอไม่เป็น
อันดับ ๒ การคิดว่าลูกของเราสมบูรณ์แบบ พ่อแม่หลายๆคน รับไม่ได้กับความจริงที่ว่าบางครั้งในบางเรื่องลูกของเราทำได้ไม่ดี เราจะหลอกทั้งตัวเราเอง และเด็กว่า ทำได้ดีแล้ว และในบางครั้งเราอาจจะถึงกับต่อว่าคนอื่นที่มาบอกความจริง(ที่ไม่อยากฟังนี้) กับเราด้วย เช่น ต่อว่าคุณครูเวลาที่ลูกเขียนหนังสือไม่สวย (โดยไม่คิดจะทำอะไรเพื่อพัฒนาความสามารถของลูกเลย)
อันดับ ๓ การเอาความต้องการของตัวเองไปใส่ในตัวเด็ก แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต แต่บางครั้งเราก็มักจะเอาสิ่งที่ตัวเราเองต้องการ (ในหลายๆครั้งมักจะเป็นเรื่องที่เราเองทำไม่ได้) ไปใส่ไว้ในชีวิตของเด็ก อย่าสับสนระหว่างความสุขของเรา (พ่อแม่) กับควา
มสุขของเด็ก
อันดับ ๔ การพยายามให้เด็กเป็นผู้ใหญ่เร็วเกินไป (ขโมยวัยเด็กของเด็กไป) การที่เด็กจะวางของเล่นไปทั่ว วิ่งเล่นเสียงดัง หรือการแปะสติกเกอร์ไปทั่วบ้าน เป็นสิ่งน่าปวดหัวของพ่อแม่ แต่การที่เราห้ามอย่างเด็ดขาดในการทำสิ่งเหล่านี้ เรากำลังขโมยวัยเด็ก อันแสนสำคัญสำหรับเด็กไป เด็กจะขาดจินตนาการในวัยเด็กไป แน่นอนเราไม่อาจปล่อยให้เด็กทำตามใจทุกอย่างได้ แต่การห้าม (สร้างแรงกดดันกับเด็ก) ตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่พร้อม อาจจะส่งผลกับเด็กในระยะยาว การไม่ยอมให้เด็กได้ลองเล่น ก็จะทำให้เมื่อเด็กโตขึ้นไปเด็กก็จะไม่กล้าที่จะลองทำในสิ่งต่างๆ
อันดับ ๕ การพร่ำสอน (แต่คำพูด) แต่ไม่แสดงให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง เพราะเด็กจะทำตามในสิ่งที่เขาเห็นตัวอย่าง ไม่ใช่ในคำพูดที่สอนเขา เช่น "อย่าดูโทรทัศน์มากเกินไปนะ" แต่พ่อกับแม่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอเลย หรือ "อย่าตีคนอื่นนะ" แต่พ่อแม่ลงไม้ลงมือกันเองเป็นประจำ หรือ "อย่าพูดคำหยาบนะ" แต่พ่อแม่นี้ขุดภาษาสมัยพ่อขุนรามมาใช้เป็นประจำ จงเป็นตัวอย่างให้เด็กได้ทำตาม อย่าเอาแต่พูด
ที่มา http://www.huffingtonpost.com/
ความผิดพลาด 5 ประการที่เรา (พ่อแม่) ทำกันโดยไม่รู้ตัว
อันดับ ๑ การบูชาเด็ก (ไม่ใช่การบูชายันต์นะครับ) ทุกวันนี้เราให้ความสำคัญกับเด็กมาก โดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางของทุกเรื่อง (Child-Centered) โดยไม่ต้องใจเราทำให้เด็กกลายเป็น "ลูกเทวดา" เวลาเด็กต้องการอะไร เราซื้อให้ เราทำให้ทั้งหมด เรากำลังสอนให้เด็กกลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว คนที่ผิดหวังไม่ได้ รอไม่เป็น
อันดับ ๒ การคิดว่าลูกของเราสมบูรณ์แบบ พ่อแม่หลายๆคน รับไม่ได้กับความจริงที่ว่าบางครั้งในบางเรื่องลูกของเราทำได้ไม่ดี เราจะหลอกทั้งตัวเราเอง และเด็กว่า ทำได้ดีแล้ว และในบางครั้งเราอาจจะถึงกับต่อว่าคนอื่นที่มาบอกความจริง(ที่ไม่อยากฟังนี้) กับเราด้วย เช่น ต่อว่าคุณครูเวลาที่ลูกเขียนหนังสือไม่สวย (โดยไม่คิดจะทำอะไรเพื่อพัฒนาความสามารถของลูกเลย)
อันดับ ๓ การเอาความต้องการของตัวเองไปใส่ในตัวเด็ก แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต แต่บางครั้งเราก็มักจะเอาสิ่งที่ตัวเราเองต้องการ (ในหลายๆครั้งมักจะเป็นเรื่องที่เราเองทำไม่ได้) ไปใส่ไว้ในชีวิตของเด็ก อย่าสับสนระหว่างความสุขของเรา (พ่อแม่) กับควา
มสุขของเด็ก
อันดับ ๔ การพยายามให้เด็กเป็นผู้ใหญ่เร็วเกินไป (ขโมยวัยเด็กของเด็กไป) การที่เด็กจะวางของเล่นไปทั่ว วิ่งเล่นเสียงดัง หรือการแปะสติกเกอร์ไปทั่วบ้าน เป็นสิ่งน่าปวดหัวของพ่อแม่ แต่การที่เราห้ามอย่างเด็ดขาดในการทำสิ่งเหล่านี้ เรากำลังขโมยวัยเด็ก อันแสนสำคัญสำหรับเด็กไป เด็กจะขาดจินตนาการในวัยเด็กไป แน่นอนเราไม่อาจปล่อยให้เด็กทำตามใจทุกอย่างได้ แต่การห้าม (สร้างแรงกดดันกับเด็ก) ตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่พร้อม อาจจะส่งผลกับเด็กในระยะยาว การไม่ยอมให้เด็กได้ลองเล่น ก็จะทำให้เมื่อเด็กโตขึ้นไปเด็กก็จะไม่กล้าที่จะลองทำในสิ่งต่างๆ
อันดับ ๕ การพร่ำสอน (แต่คำพูด) แต่ไม่แสดงให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง เพราะเด็กจะทำตามในสิ่งที่เขาเห็นตัวอย่าง ไม่ใช่ในคำพูดที่สอนเขา เช่น "อย่าดูโทรทัศน์มากเกินไปนะ" แต่พ่อกับแม่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอเลย หรือ "อย่าตีคนอื่นนะ" แต่พ่อแม่ลงไม้ลงมือกันเองเป็นประจำ หรือ "อย่าพูดคำหยาบนะ" แต่พ่อแม่นี้ขุดภาษาสมัยพ่อขุนรามมาใช้เป็นประจำ จงเป็นตัวอย่างให้เด็กได้ทำตาม อย่าเอาแต่พูด
ที่มา http://www.huffingtonpost.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น