หลักสูตรแบบ “ไฮสโคป” (High Scope) มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- ทำให้ครูปฐมวัยมีวิธีใช้โปรแกรม บนพื้นฐานของนักรังสรรค์ (Constructivist) ที่มีรากเหง้าจากทฤษฎีรับรู้ (Cognitive) ของ ฌองเปียร์เจต์ (Jean Piaget) รวมทั้งแนวความคิดของจอห์น ดิวอี้ (John Dewey) และเลฟ ไวก็อตสกี้ (Lev Vygotsky)
- ได้รับการวิจัยอย่างกว้างขวาง (Extensive) และทดสอบแล้วหลายครั้ง เพราะเป็นที่นิยมแพร่หลาย
- มีเครือข่ายกว้างขวางในการจัดอบรมและให้การสนับสนุนโปรแกรม “ไฮสโคป” ทั่วประเทศ
- ครูปฐมวัยในโปรแกรม “ไฮสโคป” เน้นหนักเรื่อง “สมรรถนะ” ทางร่างกาย สังคม และการรับรู้ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับเด็กทุกคน แทนที่จะตอกย้ำข้อบกพร่องของเด็ก
- ครูปฐมวัยในโปรแกรม “ไฮสโคป” พยายามแยกแยะช่วงเวลาของพัฒนาการเด็ก แล้วจัดให้เด็กมีโอกาสได้รับประสบการณ์ที่เหมาะสมกับระดับ ตัวอย่างเช่น ครูปฐมวัย จะส่งเสริมเด็ก 4 ขวบ ที่ประพฤติตนเหมือนเด็ก 2 ขวบ ให้แสดงออกซึ่งแผนงาน โดยชี้ไม้ชี้มือ แสดงท่าทาง (Gesture) หรือกล่าวเพียงคำพูดเดียว เพื่อห้อมล้อม (Immerse) เด็กด้วยสภาวะของการสนทนา ที่สร้างโอกาสตามธรรมชาติสำหรับการใช้ หรือได้ยินภาษา
สรุปแล้วโปรแกรม “ไฮสโคป” มีจุดเด่น 2 ประการ กล่าวคือ (1) สะท้อนถึงวงจรการเรียนการสอนของ “วางแผน-ลงมือปฏิบัติ-ทบทวน” (Plan-do-review) หลักสูตร มิได้เกิดขึ้นจากการวางแผนล่วงหน้า แต่อาศัยเด็กในการกำหนดประสบการณ์สำคัญ ซึ่งเป็นแนวทางของหลักสูตร ในการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active learning) ของเด็ก และ (2) ครูปฐมวัยมีบทบาทสำคัญในการวางแผนกิจกรรมบนพื้นฐานของความสนใจของเด็ก อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ผ่านการให้กำลังใจ และใช้มาตรการปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
ในประการแรก โปรแกรม “ไฮสโคป” สอดคล้องกับมาตรฐานข้อ 1 ของสมาคมแห่งชาติสำหรับเด็กปฐมวัย (National Association for Education of Young Children : NAEYC) ในสหรัฐอมริกา ที่ระบุถึงการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ ผ่านความเข้าใจลักษณะพิเศษ (Characteristics) และความต้องการของเด็ก ตลอดจนอิทธิพลหลากหลายต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ความยำเกรง (Respectful) สนับสนุน และท้าทายเด็ก
ในประการหลัง โปรแกรม “ไฮสโคป” สอดคล้องกับมาตรฐานข้อ 4 ของ NAEYC ที่ระบุถึงการใช้วิธีการที่มีประสิทธิผลตามพัฒนาการเด็ก ในการเชื่อมโยงกับเด็กและครอบครัว ผ่านความสัมพันธ์ในเชิงบวกและปฏิสัมพันธ์ที่รองรับสนับสนุน เป็นรากฐานของการทำงานของครูปฐมวัยกับเด็กและครอบครัว การใช้วิธีการหลากหลายที่เหมาะสมกับพัฒนการ มาตรการการสอน และเครื่องมือที่เชื่อมโยงกับเด็กและครอบครัว ตลอดจนมีอิทธิพลในเชิงบวกต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก
ที่มา http://taamkru.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น