มาเรีย มอนเตสซอรี่ กล่าวว่า “เป็นความจำเป็นที่ครูปฐมวัยต้องนำทาง (Guide) นักเรียน โดยมิให้เด็กรู้สึกว่าตลอดเวลาว่า มีครูอยู่ต่อหน้า แม้ว่าครูต้องพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ เมื่อเด็กต้องการ แต่จะต้องไม่เป็นอุปสรรคขวางทางระหว่างเด็กกับ [การเรียนรู้จาก] ประสบการณ์ของเด็ก” ครูเป็นเสาหลัก (Pillar) ในการปฏิบัติของวิธีการมอนเตสซอรี่
ในสภาพแวดล้อมของวิธีการมอนเตสซอรี่ จะมีการตระเตรียมวัสดุและกิจกรรมสำหรับให้เด็กมีส่วนร่วม ในเรื่อง (1) ชีวิตจริงในทางปฏิบัติ (Practical life) ของการเคลื่อนไหว (Motoring) (2) วัสดุประสาทสัมผัส (Sensory material) และ (3) วัสดุวิชาการ (Academic material) สำหรับการเขียน การอ่าน และเลขคณิต ทั้งหมดนี้ เป็นการสอนที่มีขั้นตอนปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า (Prescribed procedure)
วิธีการ “มอนเตสซอรี่” (Montessori) เป็นที่สนใจของบรรดาพ่อแม่และครู ด้วยเหตุผลที่การศึกษาในระบบนี้ ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพของโปรแกรมสำหรับเด็กเล็ก พ่อแม่ที่เฝ้าติดตามโปรแกรมนี้ ชื่นชอบในเรื่องความเป็นระเบียบ (Orderliness) การพึ่งพาตนเอง (Independence) ของเด็ก การเรียนรู้ที่เด็กกำหนดเอง (Self-directed) สภาพแวดล้อมที่สงบ และเด็กเป็นศูนย์กลางของกระบวนการเรียนรู้
ในทศวรรษที่ผ่านมา การนำระบบนี้ไปประยุกต์ใช้ในโปรแกรมการศึกษาของเด็กเล็กในสหรัฐอเมริกา ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน หาก มาเรีย มอนเตสซอรี่ ผู้คิดค้นวิธีการนี้ยังมีชีวิตอยู่ เธอคงจะปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นการนำวิธีการของเธอ ไปช่วยเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัย (Character) ของเด็กปฐมวัย ทั่วโลก [รวมทั้งในประเทศไทย]
ครูปฐมวัยในโปรแกรม “มอนเตสซอรี่” ต้องมีคุณสมบัติบางประการในการนำหลักการ (Principle) ของเด็กเป็น “ศูนย์กลาง” (Child-centered) ไปปฏิบัติ โดยสวมบทบาทสำคัญ 6 ประการ ดังต่อไปนี้
- ๑. ให้เกียรติ (Respect) เด็กและการเรียนรู้ของเด็ก
- ๒. ทำให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้
- ๓. ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก
- ๔. เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเด็ก
- ๕. ตระเตรียมสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้
- ๖. แนะนำวัสดุการเรียนรู้และสาธิตบทเรียน
ที่มา http://taamkru.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น