มาช่วยกันเพิ่มการอ่านของเด็กไทยกันเถอะ

   เมื่อปี สองปีก่อนที่ผ่านมาได้มีการออกผลงานวิจัยที่ทำให้ผมมีความตกใจและงงงันเป็นอย่างมากออกมาชุดหนึ่ง ที่บอกว่าเด็กไทยอ่านหนังสือกันแค่ปีล่ะ 5 เล่มเท่านั้น เป็นไปได้อย่างไร เด็กๆของเราจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ ความสามารถได้อย่างไร หากพวกเขาไม่อ่านหนังสือกันเลย

รูปภาพจาก เว็ป คมชัดลึก

   คนไทยอ่านหนังสือน้อย

   “จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2551 ระบุว่า คนไทยอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป ใช้เวลาอ่านหนังสือเรียนนอกเวลาเรียนและเวลาทำงาน เฉลี่ยวันละ 39 นาที โดยกลุ่มเยาวชนถือเป็นกลุ่มที่อ่านหนังสือมากที่สุด เฉลี่ย 46 นาที แต่หากเทียบกับประเทศอื่นยังถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมาก ซึ่งจากการจัดลำดับพฤติกรรมการอ่านพบว่าใน 1 ปี เด็กไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยเพียง 5 เล่ม ขณะที่เวียดนามอ่าน 60 เล่ม สิงคโปร์อ่าน 45 เล่ม และมาเลเซียอ่าน 40 เล่ม” รศ.วิทยากร กล่าว

   

   เฉลี่ยหนังสือที่เด็กในแต่ล่ะประเทศอ่าน

เด็กไทย                5 เล่ม

เด็กมาเลเซีย      40 เล่ม

เด็กสิงคโปร์       45 เล่ม

เด็กเวียดนาม    60 เล่ม

   เอาล่ะสิครับ คราวนี้เราต้องย้อนมาถามตัวเราเองว่าปัญหาที่เด็กไทยไม่ยอมอ่านหนังสือมันคืออะไร แล้วเราจะสามารถทำอะไรเพื่อแก้ไข ปรับปรุงปัญหานี้ด้วยกันได้หรือไม่

ทำไมเด็กไทยไม่อ่านหนังสือ

• หนังสือที่อ่านไม่น่าสนใจ ไม่สนุก
• จำนวนหนังสือที่จะอ่านมีน้อย ไม่เพียงพอ
• ไม่มีการส่งเสริมการอ่าน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับการอ่าน

ร่วมด้วยช่วยกันมั้ย

   หากเราเห็นตรงกันว่าปัญหาของการอ่านที่น้อยมากๆ ของเด็กไทยอาจจะสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ เราพร้อมที่จะร่วมด้วยช่วยกันมั้ย เช่นใครที่มีความสามารถในการจะแต่งหนังสือให้มีความน่าสนใจ ให้ดึงดูด เพื่อให้เด็กเกิดความต้องการที่จะอ่าน ก็ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานออกมา แม้จะเป็นเพึยงส่วนเล็กๆ แต่หากมันช่วยได้ มันก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะส่งผลดีอันจะเป็นประโยชน์ ไม่เพียงแต่ตัวเด็กแต่ส่งผลให้ประเทศชาติมีความเจริญขึ้นตามไปด้วย และในที่สุดผลร่วมของทั้งโลกก็จะดีตามกันไป

   หรือ เราอาจจะช่วยในส่วนที่ง่ายกว่านั้นคือ ช่วยเป็นธุระจัดหาหนังสือที่เราพิจารณาแล้วว่าดี มีประโยชน์แล้ว นำไปให้ (บริจาค)ให้กับเด็กในส่วนที่อาจจะขาดแคลน เพราะเราอาจจะเข้าใจไปเองว่ามีหนังสือมากมายให้เด็กสามารถอ่านได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วในพี้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในส่วนกลาง จะพบว่ายังมีความต้องการหนังสืออีกเป็นจำนวนมาก

   ผมมีความคิดว่าอยาจจะทำเป็นกิจกรรมในการจัดหาหนังสือที่ดี สำหรับเด็กเล็ก 0-5 ปี เพื่อเป็นการปลูกฝังการรักการอ่านสำหรับเด็กต่อไปในอนาคต ร่วมด้วยช่วยกันครับ