การนอนของเด็กทารก ต้องนอนนานเท่าไรจึงจะเพียงพอ สำหรับคำถามนี้มันไม่มีคำตอบตายตัว หรือสูตรใดๆ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน เราสามารถทำได้เพียงบอกค่าเฉลี่ยโดยแบ่งตามกลุ่มอายุ
การนอนของเด็กนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะจะส่งกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการของเด็กทั้งด้านร่างกาย และสมอง ดังนั้นต้องให้แน่ใจว่าเด็กได้รับการนอนอย่างเพียงพอ สำหรับผู้ใหญ่ที่นอนไม่เพียงพอนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะแสดงอาการอ่อนเพลีย และหงุดหงิด แต่สำหรับเด็กแล้วอาจจะแสดงออกในรูปแบบของการ ซุกซนเกินเหตุ (Hyper) การดื้อไม่รับฟังและต่อต้าน จนไปถึงงอแงอย่างไม่มีเหตุผล
เด็กอายุ แรกเกิด จนถึง ๓ เดือน
โดยเฉลี่ยแล้วเด็กจะนอนประมาณ ๑๖ - ๒๐ ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่แยกกลางวันหรือ กลางคืน โดยเด็กมักจะตื่นเป็นช่วงๆ คือนอนครั้งล่ะประมาณ ๓ - ๔ ชั่วโมง และมักจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วนอนต่อทันที (snooze) เพราะโดยมากแล้วเด็กมักจะตื่นด้วยความหิว
เวลาที่เด็กนอนควรจะมีผ้าห่มไว้ห่มตัวเด็กเพื่อให้ความอบอุ่น และช่วยกดทับเพื่อไม่ให้แขนขาของเด็กกระตุก (เป็นเรื่องปกติของเด็กในช่วงนี้) ควรจัดให้เด็กนอนในที่ที่ปลอดโปร่ง มีอากาศไหลเวียนดี
เด็กอายุ ๓ จนถึง ๖ เดือน
โดยเฉลี่ยแล้วเด็กจะนอนประมาณ ๑๒ - ๑๔ ชั่วโมงต่อวัน โดยจะเป็นการนอนในช่วงเวลากลางวันประมาณ ๔ - ๕ ชั่วโมง โดยจะตื่นตามความหิวเป็นหลัก และความไม่สบายตัว ส่วนในตอนกลางคืนจะนอนประมาณ ๘ - ๙ ชั่วโมง โดยมักจะตื่นคั่นประมาณ ๒ ครั้ง
สาเหตุที่ทำให้เด็กตื่นนอนโดยมากคือ ความหิว ความไม่สบายตัว(เปียก) ร้อน หนาว เหงา โดยทั้งหมดนี้เด็กจะแสดงออกโดยการ ร้องไห้เท่านั้น บางครั้งเด็กตื่นแล้วร้องไห้เราสามารถกล่อมให้เขานอนต่อได้ โดยมีข้อแนะนำให้เปิดเพลงเบาๆ กล่อมไปด้วยเพราะเพลงจะทำให้เด็กมีความอ่อนโยน
เด็กเริ่มมีความทรงจำแล้วตั้งแต่ในช่วงนี้ ดังนั้นเราสามารถเริ่มสอนให้เด็กได้แล้ว โดยเด็กจะเรียนรู้จากการฟังเพียงอย่างเดียวก่อน
การนอนของเด็กนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะจะส่งกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการของเด็กทั้งด้านร่างกาย และสมอง ดังนั้นต้องให้แน่ใจว่าเด็กได้รับการนอนอย่างเพียงพอ สำหรับผู้ใหญ่ที่นอนไม่เพียงพอนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะแสดงอาการอ่อนเพลีย และหงุดหงิด แต่สำหรับเด็กแล้วอาจจะแสดงออกในรูปแบบของการ ซุกซนเกินเหตุ (Hyper) การดื้อไม่รับฟังและต่อต้าน จนไปถึงงอแงอย่างไม่มีเหตุผล
เด็กอายุ แรกเกิด จนถึง ๓ เดือน
โดยเฉลี่ยแล้วเด็กจะนอนประมาณ ๑๖ - ๒๐ ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่แยกกลางวันหรือ กลางคืน โดยเด็กมักจะตื่นเป็นช่วงๆ คือนอนครั้งล่ะประมาณ ๓ - ๔ ชั่วโมง และมักจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วนอนต่อทันที (snooze) เพราะโดยมากแล้วเด็กมักจะตื่นด้วยความหิว
เวลาที่เด็กนอนควรจะมีผ้าห่มไว้ห่มตัวเด็กเพื่อให้ความอบอุ่น และช่วยกดทับเพื่อไม่ให้แขนขาของเด็กกระตุก (เป็นเรื่องปกติของเด็กในช่วงนี้) ควรจัดให้เด็กนอนในที่ที่ปลอดโปร่ง มีอากาศไหลเวียนดี
เด็กอายุ ๓ จนถึง ๖ เดือน
โดยเฉลี่ยแล้วเด็กจะนอนประมาณ ๑๒ - ๑๔ ชั่วโมงต่อวัน โดยจะเป็นการนอนในช่วงเวลากลางวันประมาณ ๔ - ๕ ชั่วโมง โดยจะตื่นตามความหิวเป็นหลัก และความไม่สบายตัว ส่วนในตอนกลางคืนจะนอนประมาณ ๘ - ๙ ชั่วโมง โดยมักจะตื่นคั่นประมาณ ๒ ครั้ง
สาเหตุที่ทำให้เด็กตื่นนอนโดยมากคือ ความหิว ความไม่สบายตัว(เปียก) ร้อน หนาว เหงา โดยทั้งหมดนี้เด็กจะแสดงออกโดยการ ร้องไห้เท่านั้น บางครั้งเด็กตื่นแล้วร้องไห้เราสามารถกล่อมให้เขานอนต่อได้ โดยมีข้อแนะนำให้เปิดเพลงเบาๆ กล่อมไปด้วยเพราะเพลงจะทำให้เด็กมีความอ่อนโยน
เด็กเริ่มมีความทรงจำแล้วตั้งแต่ในช่วงนี้ ดังนั้นเราสามารถเริ่มสอนให้เด็กได้แล้ว โดยเด็กจะเรียนรู้จากการฟังเพียงอย่างเดียวก่อน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น